พรีเมียร์ลีกยันไม่ลดเหลือ 18 ทีม ท่ามกลางปัญหาปฏิทินแข่งถี่

ริชาร์ด มาสเตอร์ส ประธานบริหารพรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าจะไม่ลดจำนวนทีมจาก 20 เหลือ 18 ทีม แม้จะเผชิญแรงกดดันจากฟีฟ่าเกี่ยวกับปฏิทินการแข่งขันที่แน่นขนัด ทั้งนี้ฤดูกาลใหม่จะเริ่มในวันที่ 15 สิงหาคม และลากยาวถึงนัดชิงฟุตบอลโลกที่สหรัฐฯ วันที่ 19 กรกฎาคมปีหน้า
แม้ลีกเอิง ฝรั่งเศสจะลดเหลือ 18 ทีมตั้งแต่ฤดูกาล 2023-24 แต่มาสเตอร์สมองว่าพรีเมียร์ลีกไม่ควรโดนบีบบังคับให้ตัดสินใจเช่นนั้น โดยย้ำว่าการเติบโตของฟุตบอลระดับสโมสรต้องไม่เกิดขึ้นบนความเสียหายของฟุตบอลภายในประเทศ
ปัจจุบัน ฟีฟ่า และสหภาพนักเตะฟิฟโปรยังคงขัดแย้งเรื่องอาการล้าสะสมของนักเตะ โดยเฉพาะกรณีการเพิ่มทีมในศึกสโมสรโลกและฟุตบอลโลก ที่พรีเมียร์ลีกมองว่าไม่ได้รับการปรึกษาอย่างเหมาะสม ทั้งยังส่งผลให้ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศต้องปรับรูปแบบ เช่น เอฟเอ คัพ ต้องยกเลิกการแข่งรีเพลย์ ขณะที่ คาราบาว คัพ รอบสาม ต้องเตะแบบกระจายในสองสัปดาห์
มาสเตอร์สย้ำว่า พรีเมียร์ลีกในฐานะลีกใหญ่ต้องมีบทบาทในกระบวนการตัดสินใจ และตั้งแต่ปี 1994 พรีเมียร์ลีกแข่ง 20 ทีมรวม 380 แมตช์มาโดยตลอด โดยมองว่าขณะนี้กำลังถูกบีบบังคับให้ปรับปฏิทินเพื่อรองรับการแข่งขันระดับทวีปและโลก ทั้งที่ผลกระทบตกอยู่กับสโมสรในประเทศโดยตรง
ล่าสุด เชลซีและแมนเชสเตอร์ ซิตี้เคยร้องขอให้เลื่อนเปิดฤดูกาลเพราะภารกิจในซัมเมอร์นี้ แต่พรีเมียร์ลีกปฏิเสธ ทำให้เชลซีต้องลงสนามพบคริสตัล พาเลซ เพียง 5 สัปดาห์หลังชนะเปแอสเชในศึกสโมสรโลกที่สหรัฐฯ
ในอีกประเด็น มาสเตอร์สยืนยันว่าพรีเมียร์ลีกจะจัดทัวร์นาเมนต์ Summer Series ในสหรัฐฯ อีกครั้งในปี 2027 แม้จะมีกระแสข่าวว่าสโมสรบางแห่งไม่พอใจการใช้เงินสนับสนุนกลาง โดยมองว่างานนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเติบโตระยะยาว และได้รับความนิยมทั้งในเชิงแฟนบอลและพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น NBC ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดในอเมริกา
นอกจากนี้ มาสเตอร์สยอมรับว่าต้องจับตาการเติบโตของลีกซาอุดีอาระเบียอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังได้รับสิทธิ์จัดฟุตบอลโลก 2034 แต่ยังมั่นใจว่าพรีเมียร์ลีกยังคงดึงดูดผู้ชมได้ทั่วโลก เพราะยังมีการแข่งขันที่เข้มข้นทั้งการลุ้นแชมป์ โควต้าบอลยุโรป และการหนีตกชั้น
“ตราบใดที่ยังมีการแข่งขันจริงจัง ไม่รู้ว่าใครจะเป็นแชมป์ และสโมสรเล็กยังสามารถฝันถึงการไต่ขึ้นไปข้างบนได้ ผมก็ยังเชื่อมั่นในอนาคตของพรีเมียร์ลีก” มาสเตอร์สกล่าวปิดท้าย.

